เรียนรู้เกี่ยวกับ Tor Browser ทำอะไรได้บ้าง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และความเป็นนิรนามของคุณ
ดาวน์โหลด Tor Browser ได้อย่างไร
กำลังติดตั้ง Tor Browser
เรียนรู้การใช้งานครั้งแรกผ่าน Tor Browser อย่างไร
วิธีที่ Tor Browser ลดการติดตามลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์
จะทำอย่างไรหากเครือข่าย Tor ถูกบล็อก
ตัวส่งพรางข้อมูลส่วนใหญ่ เช่น obfs4 พึ่งพาการใช้งานรีเลย์ "บริดจ์"
เรียนรู้วิธีควบคุมข้อมูลระบุส่วนตัวใน Tor Browser
บริการที่สามารถเข้าถึงโดยการใช้ Tor
เรียนรู้วิธีปกป้องข้อมูลของคุณโดยใช้ Tor Browser และ HTTPS
การกำหนดค่า Tor Browser เพื่อความปลอดภัยและความสามารถในการใช้งาน
ทำอย่างไรถ้า Tor เบราว์เซอร์ไม่ทำงาน
อัปเดท Tor Browser อย่างไร
Tor Browser จัดการส่วนเสริม โปรแกรมเสริม และ JavaScript อย่างไร
วิธีการลบ Tor เบราว์เซอร์ออกจากระบบของคุณ
เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ Tor บนโทรศัพท์มือถือ
ปัญหาที่ทราบ
วิธีติดตั้ง Tor Browser ไปที่อุปกรณ์แบบพกพาได้
วิธีขอความช่วยเหลือ รายงานข้อบกพร่อง หรือให้ความเห็น
Tor Browser ใช้เครือข่าย Tor เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความเป็นนิรนามของคุณ การใช้เครือข่าย Tor มีสองคุณสมบัติหลัก
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ และใครก็ตามที่กำลังเฝ้ามองการเชื่อมต่อของคุณในระดับพื้นที่จะไม่สามารถติดตามกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณได้ รวมถึงชื่อและที่อยู่ของเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน
ผู้ให้บริการของเว็บไซต์และบริการที่คุณใช้งาน และใครก็ตามที่เฝ้ามองอยู่ จะมองเห็นการเชื่อมต่อที่มาจากเครือข่าย Tor แทนที่จะเป็นที่อยู่ของ IP ที่แท้จริงของคุณ และจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครถ้าคุณไม่ระบุตัวตนของคุณ
นอกจากนั้น Tor Browser ถูกออกแบบให้ป้องกันเว็บไซต์จากการติดตาม "ลายนิ้วมือ" หรือระบุตัวคุณจากตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ
โดยค่าเริ่มต้น Tor Browser จะไม่เก็บประวัติของการเข้าใช้งานเว็บใดๆ คุกกี้จะใช้ได้เพียงแค่หนึ่งครั้ง (จนกระทั่งออกจาก Tor Browser หรือ การสร้างตัวตนใหม่ถูกขอ)
Tor คือเครือข่ายของอุโมงค์เสมือนที่อนุญาตให้คุณพัฒนาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณบนอินเทอร์เน็ต โดย Tor ทำงานโดยการส่งปริมาณการใช้งานของคุณผ่านเครือข่ายแบบสุ่มสามเครือข่าย (หรือที่รู้จักกันว่า relays) รีเลย์สุดท้ายในวงจร (รีเลย์ทางออก) จะส่งการใช้งานออกสู่อินเทอร์เน็ตสาธารณะ
The image above illustrates a user browsing a website over Tor where the traffic goes over multiple hops or relays, represented by the slices of onion, and is encrypted and decrypted at each hop.
วิธีที่ปลอดภัยและสะดวกที่สุดในการดาวน์โหลด Tor Browser คือการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Tor Project ที่ https://www.torproject.org/download การเชื่อมต่อของคุณไปยังเว็บไซต์จะปลอดภัยด้วยการใช้ HTTPSซึ่งจะเป็นการยากกว่าสำหรับใครก็ตามที่จะเข้ามายุ่ง
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีบางครั้งที่คุณไม่สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อผ่าน Tor ได้ เช่น อาจจะถูกบล็อกในเครือข่ายของคุณ ถ้าปัญหานี้เกิดขึ้น คุณสามารถใช้วิธีดาวน์โหลดทางเลือก ที่แสดงไว้ด้านล่าง
ถ้าคุณไม่สามารถดาวน์โหลด Tor Browser จากเว็บไซต์หลักของ Tor Project ได้ คุณสามารถลองดาวน์โหลด Tor ได้จากหนึ่งในเว็บไซต์มิร์เรอร์ของเรา ไม่ว่าจะเป็น EFF หรือ Calyx Institute
GetTor เป็นบริการตอบข้อความอัตโนมัติที่เชื่อมกับรุ่นล่าสุดของ Tor Browser โดยมีโฮสต์หลายแห่ง เช่น Dropbox, Google Drive และ GitHub
ส่งอีเมลถึง gettor@torproject.orgและในข้อความอีเมล ให้เขียน "windows", "osx" หรือ "linux" (ไม่ต้องใส่เครื่องหมาย"") ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการของคุณ ตัวอย่างเช่น หากต้องการลิงค์เพื่อดาวน์โหลด Tor Browser สำหรับ Windows และให้ส่งอีเมลมาที่ gettor@torproject.orgโดยพิมพ์คำว่า "windows" ในข้อความ
GetTor จะตอบด้วยอีเมลซึ่งประกอบไปด้วยลิงค์ที่คุณสามารถดาวน์โหลด Tor Browser, ลายเซ็นการเข้ารหัสลับ (จำเป็นสำหรับยืนยันการดาวน์โหลด) ลายนิ้วมือของกุญแจเพื่อสร้างลายเซ็น และผลรวมตรวจสอบแพ็คเกจ คุณอาจจะถูกเสนอให้เลือกระหว่างซอฟต์แวร์ “32-bit” หรือ “64-bit” ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้
ส่งข้อความมาที่ @GetTor_Bot บน Telegram
กดปุ่ม "เริ่มต้น" หรือเขียนว่า /start
ในกล่องข้อความ
เลือกภาษาของคุณ
การดาวน์โหลด Tor Browser มี 2 วิธี
บราวเซอร์ Tor อิงจาก ESR (Extended Support Release รุ่นสนับสนุนยาวนาน) ของ Mozilla Firefox ที่จะอัพเดทความปลอดภัยที่จำเป็นเรื่อยๆ จากรุ่นหลักของ Firefox การอัปเดตเหล่านี้อาจทำให้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าเข้ากันไม่ได้กับซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ที่มีเฉพาะในระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่เท่านั้น การรักษาการสนับสนุนสำหรับระบบที่ล้าสมัยจะทำให้ความปลอดภัยของ Tor Browser ลดลง เนื่องจากจะต้องปิดการใช้งานฟีเจอร์และกลไกความปลอดภัยใหม่ๆ ที่สำคัญต่อการปกป้องความเป็นนิรนามของผู้ใช้
Note: Support for Windows 7, 8, and 8.1 and macOS 10.12 to 10.14 is discontinued with Tor Browser 14. Users on these legacy operating systems will continue to receive security updates for Tor Browser 13.5 for until at least March of 2025. We strongly advise users to update in order to maintain access to the most recent updates and security features provided by Tor Browser.
ระบบปฏิบัติการ (32-bit และ 64-bit):
บราวเซอร์ Tor ได้รับการรองรับบนระบบปฏิบัติการใดๆที่ใช้ Linux ยุคใหม่. โปรด ทัก หากพบเจอปัญหาใดๆขณะติดตั้ง
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
ดาวน์โหลดไฟล์ .exe
ของ Windows
(แนะนำ) ให้ยืนยันรับรอง ด้วยลายเซ็นบนไฟล์
เมื่อดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้วให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์.exe
เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้ง
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
ดาวน์โหลดไฟล์ .dmg
สำหรับ macOS
(แนะนำ) ให้ยืนยันรับรอง ด้วยลายเซ็นบนไฟล์
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์แล้วให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ .dmg
เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้ง
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
Download the Linux .tar.xz
file.
(แนะนำ) ให้ยืนยันรับรอง ด้วยลายเซ็นบนไฟล์
ขั้นตอนนี้ให้ทำตามวิธีแบบกราฟิก หรือคำสั่ง command-line:
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้ดึงไฟล์ออกมาจากตัวเก็บด้วยตัวจัดการกล่องเก็บไฟล์
Navigate to the Tor Browser directory.
Click on the start-tor-browser.desktop
file to launch the browser.
Note: If these steps do not work, please try the following command-line method.
หลังดาวน์โหลดไฟล์เสร็จแล้ว ให้ดึงไฟล์ออกมาจากกล่องเก็บด้วยคำสั่ง tar -xf [TB archive]
จากรายการต่างๆ ของ Tor Browser คุณสามารถใช้งาน Tor Browser ด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้:
./start-tor-browser.desktop
หมายเหตุ:ถ้าคำสั่งดังกล่าวไม่ทำงาน คุณอาจจะต้องทำให้ตัวไฟล์ทำงานเองได้ จากในนี้ให้ป้อนคำสั่งว่า chmod +x start-tor-browser.desktop
To register Tor Browser as a desktop application and have it accessible from the application menus run this command:
./start-tor-browser.desktop --register-app
ดูที่นี่ว่าจะ update Tor Browserได้อย่างไร
เมื่อคุณเริ่มต้นใช้งาน Tor Browser คุณจะเห็นหน้าต่างที่ระบุว่าเชื่อมต่อกับ Tor ตัวเลือกนี้จะให้คุณเลือกเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์กของ Tor โดยตรง หรือให้ปรับเปลี่ยน Tor Browser เพื่อใช้กับการเชื่อมต่อของคุณ เปิดสวิทช์ ถ้าคุณอยากเชื่อมต่อสู่เครือข่าย Tor โดยอัตโนมัติ
โดยส่วนมากการเลือก "เชื่อมต่อ" จะทำให้คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Tor โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม
หลักจากคลิกแล้ว แถบสถานะจะปรากฏขึ้นมาเพื่อแสดงความคืบหน้าของการเชื่อมต่อของ Tor ถ้าคุณมีการเชื่อมต่อที่ค่อนข้างเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะติดขัดในบางจุด ลองใช้ "ตัวช่วยการเชื่อมต่อ" หรือดูหน้า การแก้ไขปัญหาสำหรับการแก้ไข หรือหากคุณรู้ว่าการเชื่อมต่อของคุณถูกเซ็นเซอร์หรือมีการใช้ตัวกลาง (proxy) คุณควรคลิกคำว่า "ปรับเปลี่ยนการเชื่อมต่อ"
หาก Tor ถูกบล็อคในตำแหน่งที่คุณอยู่ การลองใช้บริดจ์อาจจะช่วยได้ ตัวช่วยการเชื่อมต่อสามารถช่วยเลือกตำแหน่งให้คุณได้จากจุดที่คุณอยู่ได้
ถ้าหากตัวช่วยการเชื่อมต่อไม่สามารถระบุตำแหน่งของคุณได้ คุณสามารถที่จะเลือกทวีปต่างๆ จากเมนูที่ขยายลงมาด้านล่างและคลิกไปที่ 'ลองใช้บริดจ์'
Tor Browser จะพาคุณไปยังชุดตัวเลือกเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ
ตัวช่วยการเชื่อมต่อจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณและสถานะการเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์กของ Tor
กล่องตัวเลือกแรกคือ "เริ่มต้นโดยรวดเร็ว" หากกดเลือกตัวเลือกนี้ ทุกครั้งที่คุณเปิด Tor Browser โปรแกรมจะพยายามเชื่อมต่อกับการตั้งค่าเน็ตเวิร์กที่คุณกำหนดเอาไว้ก่อนหน้า
หากคุณรู้ว่าการเชื่อมต่อของคุณถูกเซ็นเซอร์ หรือคุณลองเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์กของ Tor แล้วล้มเหลวและลองแก้ไขด้วยวิธีอื่นๆ แล้วไม่สำเร็จ คุณสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ตัวพรางสัญญาณบน Tor Browser ได้ "บริดจ์" จะแสดงโหมด การหลบเลี่ยงเพื่อที่จะปรับเปลี่ยนตัวพรางสัญญาณหรือเพื่อเชื่อมต่อโดยใช้ บริดจ์
ถ้าคุณใช้ตัวกลาง (proxy) ในการเชื่อมต่อคุณสามารถปรับเปลี่ยนโดยการคลิก 'ตั้งค่า...' แล้วเปลี่ยน 'ปรับเปลี่ยนวิธีเชื่อมต่อ Tor Browser กับอินเทอร์เน็ต' ส่วนใหญ่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบนี้ ปกติคุณจะรู้ว่าคุณต้องกดเลือกกล่องตัวเลือกนี้หรือไม่ เนื่องจากการตั้งค่าแบบเดียวกันจะถูกปรับใช้กับเบราว์เซอร์อื่นๆ บนระบบของคุณด้วย หากเป็นไปได้ สอบถามแนวทางจากผู้ดูแลเครือข่ายของคุณ ถ้าคุณไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อผ่านตัวกลาง (proxy) คลิกคำว่า "เชื่อมต่อ"
การติดตามลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์คือการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเว็บเบราว์เซอร์อย่างเป็นระบบเพื่อคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนหรือคุณลักษณะของมัน การตั้งค่าและฟีเจอร์ของเบราว์เซอร์แต่ละตัวจะสร้าง "ลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์" เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่สร้างลายนิ้วมือเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งสามารถติดตามได้ทั่วอินเทอร์เน็ต สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์ กรุณาอ่านบทความเหล่านี้ในบล็อกของ Tor: การติดตามลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์: บทนำและความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า และ Tor Browser: มรดกของการพัฒนานวัตกรรมการท่องเว็บอย่างเป็นส่วนตัว
ประการแรก ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากผู้ใช้ในการเก็บข้อมูลนี้ สคริปต์ใด ๆ ที่ทำงานในเบราว์เซอร์สามารถสร้างลายนิ้วมือของอุปกรณ์ได้อย่างเงียบ ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
ประการที่สอง หากคุณสมบัติหนึ่งของลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์เป็นเอกลักษณ์หรือหากการรวมกันของคุณสมบัติหลายอย่างเป็นเอกลักษณ์ อุปกรณ์นั้นสามารถถูกระบุและติดตามทางออนไลน์ได้ ซึ่งหมายความว่าแม้ไม่มี คุกกี้ก็ตาม อุปกรณ์ยังสามารถถูกติดตามได้โดยใช้ลายนิ้วมือของมัน
Tor Browser ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อลดความเป็นเอกลักษณ์ของลายนิ้วมือของผู้ใช้แต่ละคนในหลายๆ ด้าน ในขณะที่การทำให้ผู้ใช้ Tor Browser ทุกคนเหมือนกันทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เป้าหมายคือการลดจำนวน "กลุ่ม" ที่แยกแยะได้สำหรับแต่ละด้าน วิธีการนี้ทำให้การติดตามผู้ใช้แต่ละคนนั้นยากขึ้น
คุณสมบัติบางอย่าง เช่น ระบบปฏิบัติการและภาษา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานและไม่สามารถซ่อนหรือปลอมแปลงได้อย่างสมบูรณ์ ในทางกลับกัน, Tor Browser จำกัดความหลากหลายของคุณสมบัติเหล่านี้เพื่อลดความโดดเด่น ตัวอย่างเช่น มันจำกัดการตรวจสอบแบบอักษรและใช้การแก้ไขตัวอักษร, ทำให้ขนาดหน้าจอและหน้าต่างเป็นมาตรฐานโดยใช้การเลตเตอร์บอกซ์, และจำกัดความหลากหลายของภาษาที่ขอให้เป็นชุดที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเล็กน้อย
เป้าหมายหลักของการป้องกันการติดตามลายนิ้วมือของ Tor Browser คือการทำให้การรวบรวมข้อมูลเพื่อระบุตัวตนผู้ใช้อย่างเฉพาะเจาะจงทำได้ยากขึ้นอย่างมาก โดยที่ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวโดยไม่กระทบต่อการทำงานที่จำเป็น
เพื่อป้องกันการติดตามจากขนาดหน้าจอ Tor Browser เริ่มต้นด้วยหน้าต่างเนื้อหาที่มีขนาดเป็นทวีคูณของ 200px x 100px กลยุทธ์นี้คือการจัดกลุ่มผู้ใช้ทั้งหมดเป็นสองสามกลุ่มเพื่อทำให้การระบุตัวผู้ใช้แต่ละคนทำได้ยากขึ้น มันทำงานได้ดีจนกว่าผู้ใช้จะเริ่มปรับขนาดหน้าต่างของพวกเขา (เช่น โดยการขยายหน้าต่างให้เต็มหน้าจอหรือเข้าสู่โหมดเต็มหน้าจอ) Tor Browser มาพร้อมกับการป้องกันการติดตามลายนิ้วมือสำหรับสถานการณ์เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งเรียกว่า Letterboxing เทคนิคนี้พัฒนาโดย Mozilla และได้รับการนำเสนอในปี 2019 มันทำงานโดยการเพิ่มขอบสีขาวให้กับหน้าต่างเบราว์เซอร์เพื่อให้หน้าต่างใกล้เคียงกับขนาดที่ต้องการมากที่สุด ในขณะที่ผู้ใช้ยังคงอยู่ในกลุ่มขนาดหน้าจอที่ป้องกันการระบุตัวโดยใช้ขนาดหน้าจอ
พูดง่ายๆ คือ เทคนิคนี้จะจัดกลุ่มผู้ใช้ที่มีขนาดหน้าจอบางอย่างและทำให้ยากต่อการระบุตัวผู้ใช้จากขนาดหน้าจอ เนื่องจากจะมีผู้ใช้หลายคนที่มีขนาดหน้าจอเดียวกัน
นอกจากการเลตเตอร์บอกซ์แล้ว Tor Browser ยังใช้ฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายเพื่อลดการติดตามลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์เหล่านี้รวมถึงการบล็อกการดึงข้อมูลภาพจาก Canvas, การรวม NoScript, การปลอมแปลง user-agent และ first party isolation สำหรับรายการฟีเจอร์ทั้งหมด กรุณาอ่าน เอกสารการออกแบบและการดำเนินการของ Tor Browser
บางครั้งการเข้าถึงเน็ตเวิร์กของ Tor โดยตรงอาจถูกบล็อคจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือจากรัฐบาล Tor Browser มีการใช้เครื่องมือเพื่อหลบเลี่ยงการถูกปิดกั้นต่างๆ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะเรียกว่า "ตัวพรางสัญญาณ"
ตอนนี้มีตัวพรางข้อมูลสี่ชนิดที่ใช้ได้ แต่ยังมีชนิดอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่
obfs4 | obfs4 ทำให้ช่องสัญญาณของ Tor ดูกลายเป็นแบบสุ่ม และยังป้องกันเซ็นเซอร์ตรวจจับบริดจ์ที่มากับตัวสแกนบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งตัว obfs4 มักจะถูกปิดกั้นน้อยกว่ารุ่นที่มีมาก่อนหน้านี้อย่าง obfs3 |
meek | ตัวพรางสัญญาณแบบ meek ทำให้คุณดูเหมือนกำลังท่องเว็บไซต์ที่สำคัญๆ แทนที่การเปิดใช้ Tor โดย meek-azure ทำให้ดูเสมือนว่าคุณกำลังใช้งานเว็บไซต์ของไมโครซอฟต์ |
Snowflake | Snowflakes กำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อของคุณผ่านพร็อกซีที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร เพื่อทำให้การเชื่อมต่อของคุณเป็นเหมือนการใช้วิดีโอคอลแทนที่จะเป็นการใช้ Tor |
WebTunnel | WebTunnel จะพรางการเชื่อมต่อ Tor ของคุณ ทำให้ดูเสมือนว่าคุณกำลังเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ ผ่านทาง HTTPS |
เพื่อที่จะใช้ตัวพรางสัญญาณต่างๆ ให้คุณคลิก "กำหนดค่าการเชื่อมต่อ" ตอนที่เริ่มใช้ Tor Browser เป็นครั้งแรก ใต้เมนู "บริดจ์" จะมีตัวเลือก "เลือกหนึ่งตัวเลือกจากบริดจ์แบบบิวต์อินที่มากับ Tor Browser" และคลิกคำว่า "เลือกบริดจ์แบบบิวต์อิน" จากในเมนู เลือกตัวพรางสัญญาณใดก็ตามที่คุณต้องการใช้
เมื่อคุณเลือกตัวพรางสัญญาณที่คุณต้องการใช้เรียบร้อยแล้ว คลิก "Connect" เพื่อบันทึกการตั้งค่าของคุณ
หรือหากคุณกำลังเปิดใช้งาน Tor Browser ให้คลิก "ตั้งค่า" ที่ แถบเมนู (≡)นั้นคลิก "เชื่อมต่อ" ที่แถบด้านข้าง ใต้เมนู "บริดจ์" จะมีตัวเลือก "เลือกหนึ่งตัวเลือกจากบริดจ์แบบบิวต์อินที่มากับ Tor Browser" และคลิกคำว่า "เลือกบริดจ์แบบบิวต์อิน" เลือกตัวพรางสัญญาณต่างๆ ที่คุณต้องการใช้จากแถบเมนูและคลิกคำว่า "OK" การตั้งค่าของคุณจะถูกบันทึกโดยอัติโนมัติทันทีที่คุณปิดแถบการใช้งาน
ตัวส่งสัญญาณแแต่ละตัวที่อยู่ในเมนู Tor Bridge ทำงานแตกต่างกัน และประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของคุณ
ถ้าคุณพยายามหลบเลี่ยงจากการบล็อกการเชื่อมต่อเป็นครั้งแรก คุณควรลองใช้ transport หลายๆ แบบเช่น obfs4, Snowflake และ meek-azure
ถ้าคุณได้ลองจากตัวเลือกทั้งหมดแล้วและไม่มีตัวไหนเลยที่ทำให้คุณเชื่อมต่อออนไลน์ได้ คุณต้องขอบริดจ์ด้วยตนเองหรือเพิ่มตำแหน่งของบริดจ์เข้าไป
ผู้ใช้ในประเทศจีนมักต้องเชื่อมต่อกับบริดจ์ส่วนบุคคลและบริดจ์ประเภท obfs4 ที่ไม่ได้มีระบุไว้
ติดต่อ Telegram Bot @GetBridgesBot และพิมพ์ /bridges
หรือส่งอีเมลไปที่frontdesk@torproject.orgโดยใส่หัวเรื่องอีเมลว่า "private bridge cn"
ถ้าคุณเชื่อมต่อจากประเทศอื่น โปรดจำไว้ว่าคุณต้องใส่ชื่อประเทศหรือรหัสประเทศที่หัวเรื่องของอีเมล
อ่านหัวข้อBridgesเพื่อเรียนรู้ว่าอะไรคือบริดจ์และจะหามาได้อย่างไร
ส่วนใหญ่ตัวอำพรางสัญญาณเช่น obfs4 จะขึ้นอยู่กับการส่งสัญญาณของ "บริดจ์" บริดจ์จะทำงานตามความสมัครใจของผู้ใช้งานเหมือนการส่งสัญญาณของ Tor ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลบริดจ์จะไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้บุกรุกจึงไม่สามารถตรวจจับบริดจ์ได้ง่ายๆ
การใช้บริดจ์ควบคู่กับตัวพรางสัญญาณช่วยปกปิดว่าคุณกำลังใช้ Tor อยู่ แต่การทำแบบนี้จะทำให้สัญญาณการเชื่อมต่อช้าลงเมื่อเทียบกับการใช้สัญญาณของ Tor ตามปกติ
ตัวพรางการส่งข้อมูลแบบอื่น เช่น meek หรือ Snowflake จะใช้เทคนิคป้องกันเซ็นเซอร์ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาตำแหน่งของบริดจ์ คุณจึงไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งของบริดจ์เพื่อใช้ตัวพรางเหล่านี้
เนื่องจากที่อยู่ของบริดจ์ที่ไม่เป็นสาธารณะคุณจะต้องขอด้วยตนเอง คุณมีสองทางเลือก
/เริ่มต้น
หรือ/บริดจ์
ในกล่องข้อความ คัดลอกตำแหน่งของบริดจ์และนำไปวางตามรายละเอียดด้านล่างนี้:ถ้าคุณเริ่มใช้ Tor Browser เป็นครั้งแรกให้คลิกคำว่า "ปรับแต่งการเชื่อมต่อ" เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า Tor ขึ้นมา ในเมนู "บริดจ์" ให้หาตัวเลือก "ค้นหาบริดจ์เพิ่มเติม" และคลิกที่ "ขอบริดจ์" เพื่อให้โครงการ Tor จัดหาบริดจ์ให้ ทำส่วน Captcha ให้สมบูรณ์และคลิก "ส่ง" คลิก "Connect" เพื่อบันทึกการตั้งค่าของคุณ
หรือหากคุณกำลังเปิดใช้งาน Tor Browser ให้คลิก "ตั้งค่า" ที่ แถบเมนู (≡)นั้นคลิก "เชื่อมต่อ" ที่แถบด้านข้าง ในเมนู "บริดจ์" ให้หาตัวเลือก "ค้นหาบริดจ์เพิ่มเติม" และคลิกที่ "ขอบริดจ์" เพื่อให้โครงการ Tor จัดหาบริดจ์ให้ ทำส่วน Captcha ให้สมบูรณ์และคลิก "ส่ง" การตั้งค่าของคุณจะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติทันทีที่คุณปิดแถบการใช้งาน
ถ้าคุณเริ่มใช้ Tor Browser เป็นครั้งแรกให้คลิกคำว่า "ปรับแต่งการเชื่อมต่อ" เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า Tor ขึ้นมา ในเมนู "บริดจ์" จากตัวเลือก "ป้อนตำแหน่งของบริดจ์ที่คุณรู้" ให้คลิกไปที่ "เพิ่มบริดจ์ด้วยตัวเอง" จากนั้นป้อนข้อมูลบริดจ์ที่ละอันบนแต่ละบรรทัด คลิก "Connect" เพื่อบันทึกการตั้งค่าของคุณ
หรือหากคุณกำลังเปิดใช้งาน Tor Browser ให้คลิก "ตั้งค่า" ที่ แถบเมนู (≡)นั้นคลิก "เชื่อมต่อ" ที่แถบด้านข้าง ในเมนู "บริดจ์" จากตัวเลือก "ป้อนตำแหน่งของบริดจ์ที่คุณรู้" ให้คลิกไปที่ "เพิ่มบริดจ์ด้วยตัวเอง" จากนั้นป้อนข้อมูลบริดจ์ที่ละอันบนแต่ละบรรทัด การตั้งค่าของคุณจะถูกบันทึกโดยอัติโนมัติทันทีที่คุณปิดแถบการใช้งาน
หากการเชื่อมต่อล้มเหลว บริดจ์ที่คุณได้รับอาจไม่ทำงาน โปรดใช้วิธีใดวิธีหนึ่งข้างต้นเพื่อรับที่อยู่บริดจ์มากขึ้นแล้วลองอีกครั้ง
ตำแหน่งของบริดจ์แต่ละอันจะถูกแทนด้วยรูปอีโมจิต่างๆ ที่เรียกว่าบริดจ์-โมจิ ซึ่งบริดจ์-โมจิเหล่านี้ใช้เพื่อยืนยันว่าได้เพิ่มบริดจ์สำเร็จแล้ว
บริดจ์-โมจิคือตัวระบุตำแหน่งของบริดจ์ที่สามารถอ่านได้และไม่ได้แสดงถึงคุณภาพการเชื่อมต่อของเน็ตเวิร์กของ Tor หรือสถานะของบริดจ์ อิโมจิต่างๆ ไม่สามารถใช้เป็นข้อมูลนำเข้าได้ผู้ใช้ต้องใส่ตำแหน่งของบริดจ์ให้สมบูรณ์เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับบริดจ์
คุณสามารถแชร์ตำแหน่งของบริดจ์โดยใช้ QR code หรือโดยคัดลอกตำแหน่งของบริดจ์ทั้งหมด
เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ ไม่เพียงแต่ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเยี่ยมชมของคุณ ขณะนี้เว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้บริการของบริษัทตัวแทนแบบลักษณะบุคคลที่สามรวมถึงปุ่ม ไลค์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เครื่องมือติดตามการวิเคราะห์ และเตือนโฆษณาซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมโยงกิจกรรมของคุณผ่านเว็บไซต์ต่างๆ
การใช้เครือข่าย Tor เพื่อหยุดการถูกสังเกตการณ์ที่ไม่สามารถค้นพบตำแหน่งที่แน่นอนและที่อยู่ IP ของคุณได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีข้อมูลนี้ก็ตามพวกเขาอาจสามารถเชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของกิจกรรมของคุณเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุผลนี้ Tor Browser จึงมีคุณสมบัติเพิ่มเติมบางอย่างที่ช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงกับตัวตนของคุณได้
Tor Browser ถือว่าอยู่ระหว่างประสบการณ์การใช้เว็บของคุณที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของคุณกับเว็บไซต์ในแถบ URL แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ต่างกันของสองแห่งที่ใช้บริการของบริษัทตัวแทนบุคคลที่สาม โดย Tor Browser จะบังคับให้เนื้อหาให้บริการในสองวงจร Tor ที่แตกต่างกัน ดังนั้นตัวติดตามจะไม่ทราบว่าการเชื่อมต่อทั้งสองเกิดขึ้นจากเบราว์เซอร์ของคุณ
ในทางกลับกัน การเชื่อมต่อทั้งหมดไปยังที่อยู่เว็บไซต์เดียวจะทำผ่านวงจรเชื่อมต่อ Tor เดียวกัน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเรียกดูหน้าต่างๆ ของเว็บไซต์เดียวในแท็บ หรือหน้าต่างแยกต่างหากโดยไม่สูญเสียฟังก์ชันการทำงานใดๆ
คุณสามารถดูไดอะแกรมของวงจรที่ Tor บราว์เซอร์ ใช้สำหรับแท็บปัจจุบันในเมนูข้อมูลไซต์ ในแถบ URL
Guard หรือทางเข้าจุดเชื่อมต่อจะเป็นจุดเชื่อมต่อแรกในวงจรที่ Tor ได้เลือกให้โดยอัติโนมัติ แต่จุดเชื่อมต่อดังกล่าวจะแตกต่างกับจุดเชื่อมต่ออื่นๆ ในวงจร Guard node จะเปลี่ยนแค่ 2-3 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีไปที่ประวัติ แตกต่างจากจุดเชื่อมต่ออื่นๆ ที่เปลี่ยนทุกครั้งเมื่อพบโดเมนใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Guard โปรดปรึกษา FAQ and Support Portal
แม้ว่า Tor เบราว์เซอร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานการไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ใช้ทั้งหมดบนเว็บ แต่อาจมีกรณีที่จะใช้ Tor กับเว็บไซต์ที่ต้องการชื่อผู้ใช้รหัสผ่านหรือข้อมูลการระบุตัวตนอื่น ๆ
หากคุณเข้าสู่เว็บไซต์โดยใช้เบราว์เซอร์ปกติ คุณจะต้องเปิดเผยที่อยู่ IP และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ด้วย เช่นเดียวกับเมื่อคุณส่งอีเมล การเข้าสู่ระบบเครือข่ายสังคม หรือบัญชีอีเมลของคุณโดยใช้ Tor Browser จะช่วยให้คุณสามารถเลือกข้อมูลที่คุณเปิดเผยให้กับเว็บไซต์ที่คุณเรียกดูได้อย่างแม่นยำ การเข้าสู่ระบบโดยใช้ Tor Browser มีประโยชน์เช่นกันหากเว็บไซต์ที่คุณพยายามเข้าถึงนั้นถูกเซ็นเซอร์ในเครือข่ายการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณ
เมื่อคุณเข้าสู่เว็บไซต์ผ่าน Tor มีบางประเด็นที่คุณควรคำนึงถึง
ตัวเลือก "สร้างตัวตนใหม่" ของ Tor Browser และ "วงจรเน็ตเวิร์คใหม่สำหรับเว็บไซต์นี้" ทั้งสองอันอยู่ในแถบเมนูสามขีดหรือเมนูหลัก (≡)
ตัวเลือกนี้มีประโยชน์ถ้าคุณต้องการเพื่อป้องกันกิจกรรมเบราว์เซอร์ภายหลังของคุณจากการเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณทำมาก่อน การเลือกนี้มันจะปิดแท็บและหน้าต่างที่เปิดอยู่ทั้งหมดของคุณล้างข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด เช่น คุกกี้และประวัติการเข้าชม และใช้วงจร Tor ใหม่สำหรับการเชื่อมต่อทั้งหมด Tor Browser จะเตือนคุณว่ากิจกรรมและการดาวน์โหลดทั้งหมดจะหยุดลง ดังนั้นให้คำนึงถึงสิ่งนี้ก่อนที่จะคลิก "สร้างตัวตนใหม่"
เพื่อที่จะใช้ตัวเลือกนี้ คุณแค่ต้องคลิกเลือก "สร้างตัวตนใหม่" ในแถบเครื่องมือของ Tor Browser
ตัวเลือกนี้จะเป็นประโยชน์หาก ทางออกช่องสัญญาณ ที่คุณใช้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ต้องการได้ หรือไม่สามารถโหลดขึ้นมาได้อย่างเหมาะสม การเลือกตัวเลือกดังกล่าวจะทำให้แถบที่ทำงานอยู่ขณะนั้นหรือหน้าต่างได้ดาวน์โหลดตัวเองใหม่อีกครั้งบนวงจรของ Tor แถบบอื่นๆ หรือหน้าต่างอื่นๆ บนเว็บไซต์เดียวกันก็จะใช้วงจรใหม่นี้ขณะโหลดตัวเองใหม่อีกครั้ง ตัวเลือกนี้จะไม่ได้ล้างข้อมูลส่วนตัวหรือตัดการเชื่อมต่อกับกิจกรรมของคุณ อีกทั้งไม่ได้ส่งผลต่อการเชื่อมต่อปัจจุบันกับเว็บไซต์อื่นๆ
คุณยังสามารถเข้าถึงตัวเลือกนี้ในจอแสดงผลวงจรใหม่ ในเมนูข้อมูลไซต์ ในแถบ URL
บริการ Onion (หรือที่เคยเรียกว่า "hidden services") เป็นบริการที่เหมือนเว็บไซต์ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านเครือข่าย Tor
บริการ Onion มีประโยชน์หลายอย่าง มากกว่าการบริการปกติบนเว็บไซต์สาธารณะ
คุณต้องรู้ตำแหน่งที่อยู่ของบริการ onion เพื่อที่จะเชื่อมต่อเหมือนกันกับเว็บไซต์อื่นๆ ตำแหน่งที่อยู่ของ onion ประกอบด้วย 56 ตัวอักษร ตัวเลข และตามด้วย ".onion"
เมื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้ onion service ทาง Tor Browser จะแสดงสัญลักษณ์ที่ระบุสถานะการเชื่อมต่อของคุณที่แถบ URL ว่า: ปลอดภัยและกำลังใช้งาน onion service คุณสามารถเรียนรู้บริการonionเพิ่มเติมโดยคลิก onion icon และ แผงแสดงวงจร ที่แถบaddress
อีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับ onion site คือผ่านการเปิดใช้งาน Onion-Location ของผู้ดูแลเว็บไซต์ Onion-Location คือลักษณะการระบุตำแหน่งที่ไม่ได้เป็น HTTP แบบมาตรฐาน (non-standard) ที่เว็บไซต์ต่างๆ สามารถใช้เพื่อโฆษณา onion ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันได้ หากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมมีการใช้ onion site สัญลักษณ์คำแนะนำสีม่วงจะปรากฏขึ้นมาบนแถบ URL ใน Tor Browser และเขียนข้อความว่า ".onion available" เมื่อคุณคลิกคำว่า "เปิดใช้ .onion" เว็บไซต์จะโหลดตัวเองอีกครั้งและนำไปสู่ตำแหน่ง onion ที่คล้ายกัน
บริการ onion ที่ผ่านการพิสูจน์ตัวตนแล้วจะเป็นบริการที่เหมือนกับ onion site ที่ต้องให้ลูกค้าผู้ใช้บริการจัดหาสัญลักษณ์การยืนยันตัวตนมาให้ก่อนเข้าถึงการใช้งาน ในฐานะผู้ใช้งาน Tor Browser คุณอาจยืนยันตัวตนผ่าน Tor Browser โดยตรง คุณต้องมีหลักฐานรับรองการเข้าถึงจากผู้ดูแลบริการ onion คุณจึงจะสามารถเข้าถึงการให้บริการได้ เมื่อเข้าถึง onion service ที่ผ่านการพิสูจน์ตัวตนแล้ว Tor Browser จะแสดงสัญลักษณ์กุญแจสีเทาที่แถบ URL ร่วมกับเมนู Tooltip กรอกรหัสส่วนตัวไปยังช่องว่างที่เตรียมไว้
ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับ onion site โดย Tor Browser จะระบุข้อความเกี่ยวกับข้อผิดพลาด โดยแสดงให้เห็นแบบเฉพาะเจาะจงว่าทำไมเว็บไซต์จึงไม่สามารถใช้งานได้ ข้อผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ: ข้อผิดพลาดจากลูกค้าผู้ใช้บริการ ข้อผิดพลาดจากเน็ตเวิร์ค หรือข้อผิดพลาดจากการให้บริการ ข้อผิดพลาดต่างๆ เหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยทำตามขั้นตอนที่ระบุในหัวข้อการแก้ไขปัญหา ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ และระบุว่าคุณควรทำอย่างไรเพื่อที่จะแก้ไขปัญหา
รหัส | หัวข้อความผิดพลาด | คำบรรยายสั้น |
---|---|---|
0xF0 | ไม่พบตำแหน่งที่อยู่ของ onion | สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือตำแหน่งที่อยู่ของ onion อยู่ในสถานะออฟไลน์ โปรดติดต่อผู้ดูแลของ onion |
0xF1 | ตำแหน่งที่อยู่ของ onion ไม่สามารถเข้าถึงได้ | ที่อยู่ของ onion ไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากข้อผิดพลาดภายใน |
0xF2 | ตัดการเชื่อมต่อจากเว็บไซต์ onion | สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเว็บไซต์ของ onion ออฟไลน์อยู่ โปรดติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ของ onion |
0xF3 | ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ onion ได้ | เว็บไซต์ onion กำลังยุ่งหรือมีการเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์คของ Tor มากเกินไป โปรดลองใหม่ภายหลัง |
0xF4 | เว็บไซต์ onion ต้องการการยืนยันตัวตน | การเข้าถึงเว็บไซต์ onion ต้องผ่านการเข้ารหัส แต่ยังไม่มีการเข้ารหัสใดๆ เกิดขึ้น |
0xF5 | การยืนยันตัวตนผ่านเว็บไซต์ของ onion ล้มเหลว | รหัสที่ใส่ไม่ถูกต้องหรือถูกเพิกถอน โปรดติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ของ onion |
0xF6 | ที่อยู่ของเว็บไซต์ onion ไม่ถูกต้อง | ที่อยู่เว็บไซต์ onion ที่กรอกลงไปไม่ถูกต้อง โปรดตรวจสอบว่าที่อยู่ที่คุณกรอกลงไปถูกต้องแล้วหรือไม่ |
0xF7 | หมดเวลาการเข้าถึงที่อยู่ของ onion | การเชื่อมต่อไปยังที่อยู่ของ onion ล้มเหลว อาจเนื่องมาจากสัญญาณเชื่อมต่อที่ไม่ดี |
ถ้าคุณไม่สามารถเข้าถึง onion service ตามที่ร้องขอไป ดูให้แน่ใจว่าคุณได้ใส่ตำแหน่งที่อยู่ของ onion อย่างถูกต้องหรือไม่: เพราะข้อผิดพลาดเล็กน้อยอาจมีผลที่จะทำให้ Tor Browser ไม่สามารถเข้าถึงตำแหน่งที่อยู่ได้
ถ้าคุณลองเข้าถึง onion service ด้วยอักษร 16 ตัว ("V2 format" ที่สั้นกว่า) ตำแหน่งที่อยู่ในลักษณะนี้ ไม่สามารถใช้ได้กับเน็ตเวิร์คของ Tor ในปัจจุบัน
คุณสามารถทดสอบว่าคุณเข้าถึงบริการ onion อื่นๆ ได้หรือไม่ด้วยการเชื่อมต่อกับ บริการ Onion ของ DuckDuckGo
หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อ onion service ได้หลังจากที่ยืนยันที่อยู่ไปแล้วให้คุณลองใหม่ในภายหลัง อาจจะมีเหตุขัดข้องชั่วคราวหรือผู้ดูแลระบบอาจทำให้สถานะกลายเป็นออฟไลน์โดยไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า
หากข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่นรหัสผ่านในการเข้าสู่ระบบเดินทางโดยไม่ได้รับการเข้ารหัสบนอินเทอร์เน็ต เป็นการง่ายที่จะถูกสกัดกั้นผู้ใช้โดยการดักฟัง หากคุณเข้าสู่ระบบเข้าเว็บไซต์ใดก็ตาม คุณควรทำให้แน่ใจว่าเว็บนั้นให้บริการการเข้ารหัสลับ HTTPS ที่ซึ่งคุ้มครองการดักฟังในลักษณะนี้ คุณสามารถตรวจสอบได้ใน URL bar หากการเชื่อมต่อของคุณได้รับการเข้ารหัสลับแล้ว ที่อยู่จะเริ่มต้นด้วย "https://" แทนที่จะเป็น "http://"
โหมดเฉพาะ HTTPS บังคับให้การเชื่อมต่อไปสู่เว็บไซต์ทั้งหมดผ่านการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยที่เรียกว่า HTTPS เว็บไซต์ส่วนใหญ่รองรับ HTTPS อยู่แล้ว บางเว็บไซต์รองรับทั้ง HTTP และ HTTPS การใช้โหมดนี้ช่วยการันตีว่าการเชื่อมต่อทั้งหมดของคุณกับเว็บไซต์ต่างๆ ถูกอัพเกรดให้เป็นการใช้ HTTPS และดังนั้นจึงมีความปลอดภัยมากขึ้น
บางเว็บไซต์รองรับเฉพาะ HTTP และไม่สามารถที่จะอัพเกรดการเชื่อมต่อได้ ถ้าเว็บไซต์นั่นไม่มีเวอร์ชั่น HTTPS คุณจะเห็นหน้าที่ระบุคำว่า "การเชื่อมต่อที่มีความปลอดภัยไม่ถูกใช้งาน":
ถ้าคุณเลือกคำว่า 'ดำเนินการต่อไปที่เว็บไซต์ HTTP' แปลว่าคุณยอมรับความเสี่ยงและจะเข้าสู่เว็บไซต์ที่เป็นเวอร์ชั่น HTTP โหมดเฉพาะ HTTPS จะถูกปิดลงชั่วคราวสำหรับเว็บไซต์ดังกล่าว
คลิกปุ่ม "กลับไป" หากคุณต้องการหลบเลี่ยงการเชื่อมต่อใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้ผ่านการเข้ารหัส
บราวเซอร์ Tor แสดงหน้าต่างความปลอดภัย หากที่อยู่ของบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีถูกคัดลอก จากเว็บHTTPที่ไม่ปลอดภัย ที่อยู่คริปโทเคอร์เรนซีสามารถถูกแก้ไข และไม่ควรไว้ใจ การคลิก 'โหลดแท็ป ด้วยวงจรใหม่' จะพยายามโหลดหน้าเว็บไซต์แบบที่มีความปลอดภัย ด้วยnew Tor circuit.
หากคุณกด 'ไม่สนใจ' คุณยอมรับความเสี่ยงและ ที่อยู่คริปโทเคอร์เรนซี จะถูกคัดลอกไปที่คลิปบอร์ด
การจัดรูปแบบการแสดงข้อมูลนี้จะแสดงข้อมูลที่ผู้ดักฟังสามารถมองเห็นได้ ทั้งผ่านและไม่ผ่าน Tor Browser และการเข้ารหัส HTTPS:
การตั้งค่าเริ่มต้น Tor Browser คุ้มครองความปลอดภัยของคุณโดยการเข้าเรียกดูการรหัสข้อมูล คุณสามารถเพิ่มค่าระดับความปลอดภัยให้มากขึ้นอีกได้โดยการปิดใช้งานคุณลักษณะบางประการของเว็บไซต์ที่ส่งผลให้ค่าความปลอดภัยและค่าการปกปิดตัวตนของคุณลดลง คุณสามารถทำแบบนี้ได้โดยการเพิ่มระดับความปลอดภัยของ Tor Browser ที่เมนูรูปโล่ การเพิ่มระดับความปลอดภัยของ Tor Browser ทำให้หน้าเว็บบางเว็บไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ดังนั้นคุณควรประเมินความจำเป็นด้านความปลอดภัยกับระดับความต้องการในการใช้งานที่คุณต้องการ
การตั้งค่าความปลอดภัยสามารถเข้าถึงได้ผ่านการคลิกบนไอคอนรูปโล่ห์ที่อยู่ถัดจากแถบ Tor Browser URL กดที่ปุ่ม 'การตั้งค่า' ที่เมนูรูปโล่ เพื่อดูและปรับระดับการตั้งค่าความปลอดภัยของคุณ
การเพิ่มระดับความปลอดภัยในการตั้งค่าความปลอดภัยของ Tor Browser จะปิดการใช้งาน หรือปิดการใช้งานคุณสมบัติของเบราว์เซอร์บางส่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการถูกโจมตี คุณสามารถเปิดการตั้งค่าอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้ โดยปรับระดับความปลอดภัยของคุณ
ระดับการตั้งค่าแบบนี้ปิดการทำงานคุณลักษณะของเว็บไซต์ที่บางครั้งอาจเป็นอันตราย การทำแบบนี้อาจทำให้บางเว็บไซต์ไม่ทำงาน
JavaScript ถูกปิดการใช้งานบนเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ HTTPSทั้งหมด บางตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวเลขไม่สามารถใช้งานได้ สื่อด้านเสียงและภาพ (ที่เป็นสื่อแบบ HTML5) อยูในสถานะรอกดคลิกเพื่อเล่น
การตั้งค่าในระดับนี้จะอนุญาตให้ฟีเจอร์ของเว็บไซต์ที่จำเป็นสำหรับการทำงานในลักษณะ Static และการบริการอื่นๆ ที่เป็นแบบพื้นฐานเท่านั้น การแก้ไขนี้จะส่งผลกระทบต่อรูปภาพ สื่อ และสคริปต์
Javascript อยู่ในสถานะปิดการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้นบนเว็บไซต์ทุกเว็บ บางตัวอักษร ไอคอน สัญลักษณ์เกี่ยวกับตัวเลขและรูปถูกปิดไม่ให้ใช้งาน เสียงและภาพ (ที่เป็นสื่อแบบ HTML5) อยู่ในสถานะรอกดเพื่อเล่น
คุณควรสามารถเริ่มต้นเรียกดูเว็บโดยใช้ Tor Browser ได้รวดเร็วหลังเปิดการทำงานโปรแกรม และคลิกปุ่มเชื่อมต่อหากคุณใช้งานเป็นครั้งแรก
ตัวช่วยการเชื่อมต่อจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากคุณคลิกคำว่า 'ทดสอบ'
ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณว่าขึ้น 'ออฟไลน์' หรือไม่ หากไม่มีการเชื่อมต่อระหว่างระบบของคุณกับเน็ตเวิร์กของ Tor และขึ้นคำว่า 'ไม่ได้เชื่อมต่อ' ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้อาจช่วยคุณได้
มีการแก้ไขปัญหาง่ายๆ อยู่ หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อ Tor Browser ได้ ลองข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้:
ส่วนใหญ่แล้ว การดูไฟล์บันทึกของ Tor จะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยปัญหา ถ้าคุณีปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ ข้อความเกี่ยวกับความผิดพลาดอาจปรากฏขึ้นมา และคุณสามารถที่จะเลือก "คัดลอก Tor log ไปที่คลิปบอร์ด" จากนั้นวางไฟล์บันทึกข้อมูล Tor ไปที่ไฟล์ตัวอักษรหรือเอกสารอื่นๆ
หากคุณไม่เห็นตัวเลือกนี้ และเปิด Tor Browser เอาไว้ คุณสามารถลองไปที่แถบเมนูสามขีด ("≡") จากนั้นคลิก "การตั้งค่า" และสุดท้ายคลิก "เชื่อมต่อ" ที่แถบด้านข้าง กดปุ่ม "View Logs...." ที่ด้านล่างของหน้าจอ ที่อยู่ถัดจากปุ่ม "Tor logs"
อีกทางเลือกหนึ่งคือ ถ้าเป็นระบบ GNU หรือ Linux ให้ไปที่รายการใน Tor Browser และ เปิดใช้งาน Tor Browser จากชุดคำสั่งต่อไปนี้ เพื่อที่จะดูป้อนคำสั่งใน terminal:
./start-tor-browser.desktop --verbose
หรือบันทึกข้อมูลไปที่ไฟล์ (ค่าตั้งต้น: tor-browser.log):
./start-tor-browser.desktop --log [file]
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถหาได้ที่ ช่องทางสนับสนุน
ถ้าคุณยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เป็นไปได้ว่าผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณอาจจะเซ็นเซอร์การเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์คของ Tor อ่านหมวด การหลบเลี่ยงสำหรับวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้
Tor Browser กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีปัญหาบางอย่างเป็นที่รับรู้แล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โปรดตรวจสอบที่หน้า ปัญหาที่รับรู้แล้วเพื่อจะดูว่าปัญหาที่คุณเจอเป็นสิ่งที่เคยประสบมาแล้วและได้รับการบันทึกไว้แล้วหรือไม่
คุณจำเป็นต้องอัปเดท Tor Browser เสมอ หากคุณใช้ซอฟท์แวร์ที่หมดอายุแล้ว คุณมีความเสี่ยงต่อช่องโหว่ทางความปลอดภัยร้ายแรง ซึ่งเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวและปกป้องความนิรนามของคุณ
Tor Browser จะเตือนให้คุณอัปเดทโปรแกรมทันทีที่มีเวอร์ชั่นใหม่ปล่อยออกมา: แถบเมนูหลักรูปสามขีด (≡) จะแสดงวงกลมสีเขียวที่มีลูกศรชี้ขึ้นอยู่ด้านใน และคุณอาจเห็นข้อความเตือนว่าคุณอัปเดทโปรแกรมแล้วเมื่อเปิดใช้ Tor Browser ทั้งนี้ คุณสามารถอัปเดทได้โดยอัติโนมัติหรือดำเนินการด้วยตัวเอง
เมื่อคุณพร้อมที่จะอัปเดต Tor Browser ให้กดที่เมนูหลัก(≡) และเลือก "อัปเดต - restart ตอนนี้"
รอให้ดาวน์โหลดการอัปเดทและติดตั้ง หลังจากนั้น Tor Browser จะรีสตาร์ทตัวเอง แล้วคุณจึงจะได้ใช้เวอร์ชั่นล่าสุด
เมื่อคุณพร้อมที่จะอัปเดต Tor Browser โดยจะสิ้นสุดเซสชันการเรียกดูและปิดโปรแกรม
ลบ Tor Browser ออกจากระบบของคุณโดยลบโฟลเดอร์ที่มี Tor Browser (ดูส่วน ยกเลิกการติดตั้งสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
เยี่ยมชม https://www.torproject.org/download/ และดาวน์โหลดสำเนาเผยแพร่ล่าสุดของ Tor Browser จากนั้นติดตั้งดังเช่นเดิม
JavaScript เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่เว็บไซต์ใช้เพื่อเสนอองค์ประกอบแบบอินเทอร์แอคทีฟเช่นวิดีโอภาพเคลื่อนไหวเสียงและกำหนดเวลา น่าเสียดายที่ JavaScript ยังไม่สามารถเปิดใช้งานการที่ป้องกันการโจมตีด้านความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ซึ่งอาจนำไปสู่การไม่ระบุชื่อ
Tor Browser มี add-on ชื่อ NoScript เข้าผ่าน "Add-ons และ ธีม" บน แถบเมนู (≡). หา NoScript add-on และกดเพื่อเปิดแผงสำหรับการตั้งค่า
เลือก 'Show' ในแถบใกล้ๆกับปุ่ม Toolbar นี่จะแสดงปุ่ม NoScript ทางขวาของ แถบที่อยู่บนบราวเซอร์ ปุ่มนี้ทำให้คุณจัดการ JavaScript และ สคริปต์อื่นๆบนหน้าเว็บเพื่อควบคุมการทำงานรายตัวหรือบล็อคทั้งหมด
ผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสำหรับการท่องเว็บควรตั้ง ระดับความปลอดภัย ที่ "ปลอดภัยกว่า" (ซึ่งจะปิดการทำงานของ JavaScript สำหรับเว็บไซต์ที่ไม่ใช้ HTTPS) หรือ "ปลอดภัยขั้นสูง" (ซึ่งจะปรับใช้กับทุกเว็บไซต์) แต่ว่า การปิดJavaScriptจะป้องกันเว็บไซต์ต่างๆจากการแสดงผลที่ถูกต้อง ดังนั้น ค่าเริ่มต้นของ Tor Browser คือ อนุญาตให้ทุกเว็บไซต์ใช้งาน scripts ในแบบ "มาตรฐาน"
Tor Browser ทำงานบนพื้นฐานของ Firefox และหากส่วนเสริมเบราว์เซอร์หรือธีมแบบใดก็ตามที่เข้ากันได้กับ Firefox สามารถติดตั้งใน Tor Browser ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีเฉพาะส่วนเสริม (add-ons) ที่ทดสอบกับ Tor Browser ในการตั้งค่าเริ่มต้น การติดตั้งส่วนเสริมเบราว์เซอร์อาจกระทบต่อฟังก์ชั่นใน Tor Browser หรือสร้างปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณ เราไม่แนะนำให้ติดตั้งส่วนเสริมเพิ่มเติม และ Tor Project จะไม่ได้มีบริการช่วยเหลือในการกำหนดค่าดังกล่าว
Flash คือโปรแกรมมัลติมีเดียบนเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับเล่นวิดีโอและสื่ออื่นๆ ที่ตอบสนองกับผู้ใช้งาน อาทิ เกมส์ต่างๆ โดยปกติแล้วฟังก์ชั่นนี้จะถูกปิดให้ไม่สามารถใช้งานได้บน Tor Browser เนื่องจากโหมดดังหล่าวจะเปิดเผยที่อยู่ที่แท้จริงและ IP address ของคุณ Tor Browser ไม่ได้สนับสนุนการทำงานของโปรแกรม Flash อีกต่อไป และ Flash จึงไม่สามารถเปิดใช้งานได้
ส่วนใหญ่ฟังก์ชั่นของ Flash จะถูกแทนที่ด้วย HTML5 แบบมาตรฐาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ JavaScript แพลตฟอร์มวิดีโดต่างๆ เช่น YouTube และ Vimeo ได้เปลี่ยนไปสู่การใช้ HTML5 และไม่ได้ใช้ Flash อีกต่อไป
การลบ Tor Browser ออกจากระบบของคุณเป็นเรื่องที่ทำไดเง่าย
บนระบบ Windows:
บนระบบ macOS:
~/Library/Application Support/
ของคุณ~/Library/Application Support/
บนหน้าต่างแล้วคลิกคำว่า Goบันทึกไว้ว่าหากคุณไม่ได้ติดตั้ง Tor Browser ในตำแหน่งที่เป็นค่าตั้งต้น (ในโฟลเดอร์ Applications) TorBrowser-Data จะไม่ได้กำหนดตำแหน่งให้อยู่ในโฟลเดอร์~/Library/Application Support/
แต่จะอยู่ในโฟลเดอร์เดียวกับที่คุณติดตั้ง Tor Browser
บนระบบ Linux:
./start-tor-browser.desktop --unregister-app
โปรดทราบว่าไม่มีการใช้งานระบบปฏิบัติการพื้นฐาน ไม่มีการใช้โปรแกรม "ยกเลิกการติดตั้ง"
Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์คือโปรแกรมทางการหนึ่งเดียวที่สนับสนุนและพัฒนาโดย Tor Project แอนดรอยด์นี่เหมือนกับ Tor Browser บนเดสก์ท็อป แต่จะปรับใช้ได้กับระบบแอนดรอยด์บนมือถือของคุณ คุณลักษณะหลักๆ ของ Tor Browser สำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์นั้นรวมไปถึงการลดการติดตามระหว่างเว็บไซต์ ป้องกันการสอดแนม ป้องกันการบันทึกลายนิ้วมือบนเบราว์เซอร์ และป้องกันการเซ็นเซอร์
มีทั้ง Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์และ Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์ (อัลฟา) ผู้ใช้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางเทคนิคมากนักควรจะเลือก Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์ เพราะโปรแกรมนี้เสถียรและมีข้อบกพร่องน้อยกว่า Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์มีให้ดาวน์โหลดได้บน Play Store และ F-Droid รวมถึงเว็บไซต์ของ Tor Project การดาวน์โหลด Tor Browser มาจากที่อื่นนอกเหนือจากทั้งสามระบบปฏิบัติการนี้เป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ
คุณสามารถที่จะติดตั้ง Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์จาก Google Play Store
The Guardian Project ทำให้ Tor Browser ทำงานกับแอนดรอยด์ภายใต้ F-Droid ถ้าคุณต้องการที่จะติดตั้งแอปจาก F-Droid ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
ติดตั้งแอพ F-Droid อุปกรณ์ Android ของคุณได้จาก เว็บไซต์ของ F-Droid
เปิดแอพขึ้นมาหลังจากติดตั้ง F-Droid
เปิด "การตั้งค่า" ตรงมุมด้านล่างขวา
เปิดคลังเก็บข้อมูลที่อยู่ใต้หัวข้อ "แอปฯของฉัน"
เลื่อนเปิดใช้งาน "การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Guardian Project"
ในขั้นนี้ F-Droid จะดาวน์โหลดรายการของแอปมาจากคลังเก็บข้อมูลของ the Guardian Project (หมายเหตุ: ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา 2-3 นาที)
กดปุ่มย้อนกลับที่อยู่ด้านซ้ายบน
เปิดเมนู "ล่าสุด" ที่อยู่มุมด้านล่างซ้าย
เปิดหน้าต่างการค้นหาโดยกดสัญลักษณ์แว่นขยายที่ด้านล่างขวา
ค้นหาคำว่า "Tor Browser สำหรับ Android"
เปิดผลลัพธ์คำค้นหาโดย "The Tor Project" และการติดตั้ง
คุณสามารถที่จะมี Tor Browser ใช้บนแอนดรอยด์ผ่านการดาวน์โหลดและติดตั้ง apk จาก เว็บไซต์ Tor Project
เมื่อคุณเปิดใช้งาน Tor Browser เป็นครั้งแรก คุณจะเห็นตัวเลือก ให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Tor โดยตรง หรือปรับเปลี่ยนค่าของ Tor Browser สำหรับการเชื่อมต่อของคุณ
โดยส่วนมากการเลือก "เชื่อมต่อ" จะทำให้คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Tor โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม หลักจากแตะแล้ว แถบสถานะจะแสดงขึ้นมาเพื่อแสดงความคืบหน้าของการเชื่อมต่อของ Tor ถ้าคุณมีการเชื่อมต่อที่ค่อนข้างเร็ว แต่แถบความคืบหน้ายังติดขัดในบางจุด คุณอาจต้องตั้งค่าบราวเซอร์ Tor
หากคุณรู้ว่าการเชื่อมต่อของคุณถูกเซ็นเซอร์ คุณควรแตะ "ปรับเปลี่ยนการเชื่อมต่อ" ไปที่ส่วน 'การเชื่อมต่อ' ของการตั้งค่า หากคุณรู้ว่าการเชื่อมต่อของคุณถูกเซ็นเซอร์ หรือคุณลองเชื่อมต่อกับเน็ตเวร์คของ Tor แล้วไม่สำเร็จ และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น กดไปที่ปุ่ม "ปรับเปลี่ยนค่าของบริดจ์" คุณจะถูกนำพาไปสู่หน้าจอ 'ตั้งค่าบริดจ์' เพื่อปรับเปลี่ยนตัวอำพรางสัญญาณ
ตัวถ่ายทอดสัญญาณบริดจ์ก็คือตัวถ่ายทอดสัญญาณ Tor ที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในรายการของ Tor ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ บริดจ์เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ Tor ที่อยู่ภายใต้ระบอบการปกครองแบบกดขี่ และสำหรับคนที่ต้องการตัวกรองความปลอดภัยเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่งเนื่องจากกังวลว่าจะมีใครรู้ว่ากำลังเชื่อมต่อ IP address ผ่านสัญญาณสาธารณะของ Tor
To use a pluggable transport, tap on "Configure Connection" when starting Tor Browser for the first time. ไปที่ส่วน 'การเชื่อมต่อ' ในการตั้งค่า และแตะ 'ตั้งค่าบริดจ์' เพื่อตั้งค่าบริดจ์ หน้าต่างถัดไปแสดงให้เห็นตัวเลือกระหว่างการใช้ค่าของบริดจ์แบบบิวต์อินกับค่าของบริดจ์แบบกำหนดเอง เปิด "การใช้บริดจ์" จะมีสามตัวเลือกคือ:"obfs4" "meek-azure" และ "snowflake"
ถ้าคุณเลือกตัวเลือก "จัดหาบริดจ์ที่ฉันรู้" หลังจากนั้นให้คุณใส่ ตำแหน่งของบริดจ์]
ขณะที่กำลังเปิดใช้งาน Tor Browser คุณจะเห็นคำแจ้งเตือนบนอุปกรณ์เมื่อคุณขยายหน้าต่างออกมา พร้อมๆ กับกดปุ่ม "สร้างตัวตนใหม่" เมื่อกดปุ่มนี้คุณจะได้สร้างตัวตนใหม่ ปุ่ม "สร้างตัวตนใหม่" ของ Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์จะไม่ได้ป้องกันการเชื่อมโยงกิจกรรมที่คุณทำกับกิจกรรมก่อนหน้านี้ ซึ่งแตกต่างจาก Tor Browser บนเดสก์ท็อป การเลือกสิ่งนี้จะเปลี่ยนเพียงแค่วงจร Tor ของคุณเพียงอย่างเดียว โน๊ต ฟีเจอร์ ตัวตนใหม่ ใช้งานไม่ได้ในเวอร์ชั่นล่าสุดของ Tor Browser สำหรับ Android #42589
ระดับความปลอดภัยยกเลิกการใช้งานคุณลักษณะบางอย่างบนเว็บไซต์ที่ลดค่าความปลอดภัยและการปกปิดตัวตน Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์มีระดับความปลอดภัย 3 ระดับเหมือนกับที่มีบนเดสก์ท็อป คุณสามารถที่จะแก้ไขระดับการรักษาความปลอดภัยด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
Tor Browser ต้องถูกอัพเดทตลอดเวลา หากคุณใช้ซอฟท์แวร์ที่ล้าสมัยแล้ว คุณมีความเสี่ยงต่อช่องโหว่ทางความปลอดภัยร้ายแรง ซึ่งเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวและปกป้องความนิรนามของคุณ คุณสามารถที่จะอัปเดท Tor Browser ได้โดยอัตโนมัติ หรืออัปเดทด้วยตนเอง
วิธีนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าคุณได้ติดตั้ง Google Play หรือ F-Droid บนโทรศัพท์มือถือเอาไว้แล้ว
กดปุ่ม "การตั้งค่า" และไปที่ "จัดการแอปที่ติดตั้งไว้" ในหน้าจอถัดไป เลือก Tor Browser และสุดท้ายเลือกไปที่ปุ่ม "อัปเดต"
เยี่ยมชม Tor Project website และดาวน์โหลดสำเนาเผยแพร่ล่าสุดของ Tor Browser จากนั้น installเหมือนเดิม โดยส่วนมาก Tor Browser เวอร์ชั่นล่าสุดนี้จะถูกติดตั้งแทนที่เวอร์ชั่นที่เก่ากว่า และจึงเป็นการอัพเกรดเวอร์ชั่นของ Tor ไปในตัวด้วย ถ้าทำเช่นนั้นแล้วไม่สามารถอัพเดทเบราว์เซอร์ได้ คุณอาจจะต้องยกเลิกการติดตั้ง Tor Browser ก่อนที่แล้วค่อยติดตั้งโปรแกรมใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ Tor Browser ปิดอยู่ คุณสามารถลบ Tor Browser ออกจากระบบด้วยการยกเลิกการติดตั้งผ่านโหมดการตั้งค่าบนอุปกรณ์ของคุณ ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโทรศัพท์มือถือของคุณ ไปที่โหมดตั้งค่า > เลือกแอปต่างๆ จากนั้นเลือก Tor Browser และกดไปที่ปุ่ม "ยกเลิกการติดตั้ง" หลังจากนั้นให้ดาวน์โหลด Tor Browser เวอร์ชั่นล่าสุด และติดตั้งโปรแกรม
สามารถยกเลิกการติดตั้ง Tor Browser สำหรับแอนดรอยด์ได้โดยตรงจาก F-Droid หรือ Google Play หรือจากโปรแกรมตั้งค่าบนโทรศัพท์มือถือของคุณ
กดปุ่ม "การตั้งค่า" และไปที่ "จัดการแอปที่ติดตั้งไว้" ในหน้าต่างถัดไป เลือก Tor Browser และสุดท้ายกดไปที่ปุ่ม "ยกเลิกการติดตั้ง"
ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโทรศัพท์มือถือของคุณ ไปที่โหมดตั้งค่า > เลือกแอพต่างๆ จากนั้นเลือก Tor Browser และเลือกไปที่ปุ่ม "ยกเลิกการติดตั้ง"
ขั้นตอนเพื่อที่จะดู Tor logs ของคุณ:
คัดลอก Tor ไฟล์บันทึกไปที่คลิปบอร์ด โดยการแตะที่ปุ่ม "คัดลอก" ด้านล่างของจอ
เพื่อแก้ปัญหาบางประการที่พบเจอบ่อย โปรดสอบถาม ช่องทางสนับสนุน
ในตอนนี้จะมีคุณลักษณะบางอย่างของ Tor Browser ที่ไม่มีให้ใช้บนแอนดรอยด์ แต่มีให้ใช้บนเดสก์ท็อป
คุณไม่สามารถมองเห็นวงจรของ Tor #41234Tor Browser สำหรับ Android จะไม่สามารถเชื่อมต่อได้เมื่อย้ายไปที่ SD Card #31814
Orbot เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดย The Guardian Project โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ใช้แอนดรอยด์สามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตผ่าน Tor ได้ Orfox พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 3 ปีต่อมา และกลายเป็นช่องทางในการท่องอินเทอร์เน็ตที่ได้ความนิยมมากสำหรับผู้คนที่ต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากกว่าเบราว์เซอร์ทั่วไป และ Orfox จึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้คนสามารถหลบเลี่ยงการถูกเซ็นเซอร์ ทำให้เข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อก และเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่สำคัญได้ ในปี 2019 Orfox ได้ยุติลง หลังจากโปรแกรม Tor Browser ที่ใช้กับแอนดรอยด์ได้อย่างเป็นทางการได้ถูกปล่อยออกมา
Orbot เป็นแอปพร็อกซีที่ฟรีที่จะช่วยให้แอพอื่นๆสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Tor ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Orbot ใช้ Tor ในการเข้ารหัสสำหรับการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณ ต่อมาคุณสามารถเลือกใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่บนมือถือของคุณเพื่อหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์และป้องกันนการถูกสอดแนม สามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง Orbot ได้จาก Google Play ลองดู หน่วยสนับสนุนของเรา เพื่อหาว่าคุณต้องการ Tor Browser สำหรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ Orbot หรือต้องการเพียงเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่มี Tor Browser สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS เราแนะนำแอปบนระบบปฏิบัติการ iOS ที่เรียกว่า Onion Browser ซึ่งเป็นแอปที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาพัฒนาต่อได้อย่างอิสระ เป็นแอปที่ใช้เส้นทางเครือข่ายของ Tor และพัฒนาโดยคนที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Tor Project อย่างไรก็ตาม Apple ต้องการให้เบราว์เซอร์บน iOS ใช้สิ่งที่เรียกว่า Webkit ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ Onion Browser มีการป้องกันความเป็นส่วนตัวในแบบเดียวกับ Tor Browser
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Onion Browser ดาวน์โหลด Onion Browser จาก App Store
ตอนนี้ยังไม่มีวิธีทำให้ Tor ทำงานได้บนมือถือที่ใข้ระบบวินโดว์เวอร์ชั่นเก่า แต่สำหรับมือถือรุ่นใหม่อื่นๆ หรือมือถือรุ่นใหม่ที่รองรับระบบของไมโครซอฟต์ คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่เหมือนกับ Tor Browser บนระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์
Tor ต้องการให้นาฬิกาของระบบ (ตามเวลาท้องถิ่นของคุณ) ตั้งตามเวลาที่ถูกต้อง
โปรแกรมป้องกันไวรัสหรือมัลแวร์ที่ปิดกั้นผู้ใช้จากการเข้า Tor Browser บางครั้งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นมาพร้อมกับ ผลบวกปลอมเกี่ยวกับมัลแวร์และ/หรือสภาวะเสี่ยงอื่นๆ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ Support Portal รายชื่อโปรแกรมป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ด้านล่างนี้อาจเป็นโปรแกรมที่จะรบกวนการทำงานของ Tor และอาจจะต้องถูกระงับการทำงานชั่วคราว:
การเปิดใช้งาน VPNs มีโอกาสที่จะรบกวนการทำงานของ Tor และต้องถูกปิดการใช้งาน เราไม่แนะนำให้ใช้ VPN และ Tor คู่กัน หากคุณไม่ใช่ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ว่าจะปรับเปลี่ยนค่าทั้งสองโปรแกรมนี้อย่างไรเพื่อให้ไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัว คุณสามารถหาข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ Tor + VPN ได้ที่ wiki.
วิดีโอที่ต้องใช้โปรแกรม Adobe Flash ไม่สามารถใช้งานได้ Flash ถูกระงับการใช้งานเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
Tor ไม่สามารถใช้บริดจ์ได้ ถ้าพร็อกซีถูกใช้งานอยู่
แพ็คเกจ Tor Browser ระบุวันที่ January 1, 2000 00:00:00 UTC การทำสิ่งนี้เพื่อที่จะแน่ใจว่าซอฟแวร์แต่ละตัวจะสามารถถูกสร้างขึ้นมาอีกได้อย่างแน่นอน
ปัญหาเกี่ยวกับการทำให้ Tor Browser เป็น บราวเซอร์หลัก
ถ้าตอนนี้ Tor Browser ไม่ทำงานทั้งๆ ที่เคยทำงานตามปกติ (โดยเฉพาะหลังการติดตั้งซ้ำหรือผ่านการอัพเดท) ระบบของกคุณอาจกำลังอยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน ในกรณีนั้น การรีบูตระบบปฏิบัติการของคุณจะช่วยแก้ปัญหาได้
Tor จะไม่ทำงานบน Windows หาก ที่อยู่ของไฟล์มีตัวอักษรที่เป็น non-ascii
BitTorrent จะไม่ถูกอำพรางบน Tor
Web Authentication (WebAuthn) and Universal 2nd Factor (U2F) (i.e. YubiKey) support is disabled in Tor Browser.
ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถทำให้ Tor Browser เคลื่อนย้ายได้โดยแยกโปรแกรมออกจากกล่องเก็บไฟล์แล้วย้ายไปที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา เช่น USB หรือ SD การ์ด เราแนะนำว่าให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารถบันทึกเนื้อหาลงไปได้ เพื่อที่จะทำให้ Tor Browser สามารถอัพเดทโปรแกรมได้หากจำเป็น
สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows:
เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อของคุณและล้างข้อมูลทั้งหมด (format) ในนั้น โดยดำเนินการกับไฟล์ระบบชนิดใดก็ได้
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
ดาวน์โหลดไฟล์ .exe
สำหรับวินโดว์และบันทึกโดยตรงไปที่อุปกรณ์สื่อของคุณ
(ข้อแนะนำ) ยืนยัน ลายเซ็นบนไฟล์.
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์แล้ว คลิกไฟล์.exe
และเริ่มต้นกระบวนการติดตั้ง
เมื่อตัวติดตั้งถามว่าจะติดตั้ง Tor Browser ไว้ที่ไหน ให้เลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาของคุณ (removable media)
สำหรับระบบปฏิบัติการ macOS:
เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อของคุณและล้างข้อมูลทั้งหมด (format) ในนั้น โดยคุณ ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS แบบ Extended (Journaled)
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
ดาวน์โหลดไฟล์ .dmg
สำหรับระบบปฏิบัติการ MacOS และบันทึกไปที่อุปกรณ์สื่อของคุณโดยตรง
(ข้อแนะนำ) ยืนยัน ลายเซ็นบนไฟล์.
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์แล้ว คลิกไฟล์.dmg
และเริ่มต้นกระบวนการติดตั้ง
เมื่อตัวติดตั้งถามว่าจะติดตั้ง Tor Browser ไว้ที่ไหน ให้เลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาของคุณ (removable media)
สำหรับ GNU/Linux:
เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อของคุณและล้างข้อมูลทั้งหมด (format) ในนั้น โดยดำเนินการกับไฟล์ระบบชนิดใดก็ได้
ไปยัง Tor Browser หน้าดาวน์โหลด.
ดาวน์โหลดไฟล์ Linux .tar.xz
และเซฟโดยตรงไปที่อุปกรณ์สื่อของคุณ
(ข้อแนะนำ) ยืนยัน ลายเซ็นบนไฟล์.
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ดึงไฟล์ออกจากกล่องเก็บไปยังอุปกรณ์สื่อของคุณด้วย
เวลาที่คุณส่งคำร้อง ความคิดเห็น หรือคำร้องเรียนเกี่ยวกับข้อบกพร่องมาหาเรา โปรดรวบรวมข้อมูลมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้:
ช่องทางสนับสนุนของเราผ่านทางอีเมล Telegram, WhatsApp และ Signal เปิดทำการวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี
บริการให้ความช่วยเหลือจะปิดในวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ ทีมของเราจะกลับมาตอบข้อความของคุณภายในวันจันทร์อย่างแน่นอน
มีหลายวิธีที่จะติดต่อเรา ดังนั้นโปรดเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
เรามีบอททางการใน Telegram และช่องทางอื่นๆ:
เราแนะนำให้ขอความช่วยเหลือใน Tor Forum คุณจำเป็นต้องสร้างบัญชีเพื่อที่จะส่งหัวข้อใหม่ โปรดดูที่ แนวทางการหารือและเช็คหัวข้อที่มีอยู่แล้วก่อนที่จะถาม ตอนนี้โปรดเขียนคำขอเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเราจะได้ตอบกลับโดยเร็วที่สุด ถ้าคุณพบข้อบกพร่อง โปรดใช้ GitLab
คุณสามารถติดต่อทีมสนับสนุนของเราผ่านการส่งข้อความไปที่หมายเลข WhatsApp: +447421000612 บริการนี้ใช้งานได้ทางเดียวผ่านข้อความตัวอักษร วิดีโอ หรือการโทรผ่านเสียงไม่สามารถใช้ได้
คุณสามารถรับความช่วยเหลือโดยส่งข้อความหาเราที่หมายเลข Signal: +17787431312 Signalเป็นแอปส่งข้อความที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและเน้นความเป็นส่วนตัว ตอนนี้ช่องทางการสนับสนุนของเราที่เปิดใช้งานจะเป็นภาษาอังกฤษและรัสเซีย และการช่วยเหลือจะโฟกัสไปที่ผู้ใช้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกเซ็นเซอร์ บริการที่ใช้ได้อย่างเดียวคือการส่งข้อความ วิดีโอหรือการโทรเสียงไม่สามารถใช้ได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของเราจะให้คำแนะนำและแก้ปัญหาให้คุณหลังจากที่คุณส่งข้อความมาหาเรา
ส่งอีเมลมาหาเราที่ frontdesk@torproject.org
โปรดบอกเราว่าคุณรายงานเรื่องอะไรในหัวข้ออีเมลของคุณ ยิ่งหัวข้ออีเมลของคุณมีความเฉพาะเจาะจงมากเท่าไหร่ (เช่น "การเชื่อมต่อล้มเหลว", "ความเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์", "ความเห็นเกี่ยวกับ Tor Browser", "ฉันต้องการบริดจ์") เราก็ยิ่งจะเข้าใจและติดตามปัญหาของคุณได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น บางครั้งที่เราได้รับอีเมลที่ไม่มีหัวข้อ อีเมลดังกล่าวจะถูกตราไว้ว่าเป็นสแปม และเราจะไม่เห็นอีเมลฉบับนั้น
หากคุณทำได้ โปรดเขียนเป็นภาษาอังกฤษ รัสเซีย สเปน ฮินดี บังคลาเทศ และ/หรือภาษาโปรตุเกสเพื่อการตอบที่รวดเร็วที่สุด ถ้าภาษาต่างๆ เหล่านี้ที่ระบุไว้ไม่ใช้ภาษาที่คุณถนัด โปรดเขียนมาเป็นภาษาใดก็ได้ที่คุณถนัด แต่โปรดเข้าใจไว้ว่าการทำแบบนี้อาจจะทำให้เราต้องใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะตอบกลับเพราะเราต้องอาศัยการช่วยแปลเพื่อที่จะเข้าใจคำร้องดังกล่าว
คุณสามารถพบเราได้ที่ช่องทาง #tor
บน OFTC หรือ ช่องทางสนับสนุนผู้ใช้งาน Torบน Matrix เราอาจจะไม่ได้ตอบคุณทันที แต่เรามีการตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมไว้ และจะกลับมาหาคุณทันทีที่ทำได้
เรียนรู้ที่จะเชื่อมต่อกับ IRC / Matrix
ขั้นตอนแรกให้เช็คว่าข้อบกพร่องที่เจอเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้วหรือไม่ คุณสามารถค้นหาและอ่านเกี่ยวกับปัญหาทั้งหมดได้ที่ https://gitlab.torproject.org/ โปรดไปที่ ขอบัญชีใหม่ เพื่อสร้างเรื่องร้องเรียนใหม่ และไปที่ ค้นหาคลังเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อแจ้งปัญหาต่างๆ และเข้าถึงตัวอย่าง GitLab ของ Tor Project เราติดตามปัญหาเกี่ยวกับ Tor Browser ทั้งหมดที่ Tor Browser issue tracker ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราควรถูกจัดเก็บภายใต้ ติดตามปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์